กรุง Tokyo ถึงแม้จะเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ท่ามกลางความเจริญอันเปี่ยมล้ำนั้น ก็ยังซุกซ่อนไปด้วยธรรมชาติแท้ๆอันแสนงดงาม รอให้คุณออกไปพิสูจน์ ว่าธรรมชาติกับความเจริญสามารถไปด้วยกันได้หรือไม่… เกาะ Aogashima Aogashima เป็นชื่อของเกาะ ซึ่งตั้งอยู่ห่างทางใต้ของ Tokyo 358 กิโลเมตร มีชาวเกาะอาศัยอยู่เพียงแค่ 160 คนเท่านั้น และมีเฮลิคอปเตอร์ที่ออกเดินทางไปยัง Aogashima เพียงแค่วันละ 1 รอบ แถมมีเพียง 9 คนเท่านั้นที่จะได้ไป !! จึงทำให้การเดินทางไปยังเกาะนี้ค่อนข้างจะยากลำบากเสียหน่อย แต่ขอรับรองเลยว่าเกาะแห่งนี้มีภาพอันสวยงาม ซึ่งหาชมจากแห่งอื่นไม่ได้อยู่มากมาย เช่น แอ่งภูเขา 2ชั้น อันมีความอัศจรรย์ระดับโลก , หอดูดาวจากธรรมชาติ เป็นต้น ภูเขา Takao-san ภูเขา Takao-san มีความสูงถึง 599 เมตรจากระดับน้ำทะเล ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานแห่งชาติ ถึงแม้จะอยู่ใกล้ใจกลางเมือง แต่ก็เป็นสถานที่ธรรมชาติซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง โดยคุณสามารถสัมผัสได้กับธรรมชาติ อันแสนยิ่งใหญ่และทิวทัศน์อันงดงามได้ โดยสถานที่แห่งนี้มีเส้นทางขึ้นเขาให้เลือกถึง 6 เส้นทาง และผู้มาเยือนแต่ละคน สามารถเลือกเส้นทางเองได้ว่าอยากขึ้นทางไหน โดยเส้นทางเหล่านี้ก็เต็มไปด้วยจุดชมวิวมากมาย

Read More

Tokyo ในอดีตอันไกลโพ้น แรกเริ่มเดิมทีเป็นเพียงหมู่บ้านประมงเล็กๆ มีชื่อว่า Edo ต่อมาในปี ค.ศ. 1457 ปราสาท Edoจึงได้ถูกสร้างขึ้น กาลเวลาดำเนินมาถึงในปี 1590 ซึ่งเป็นยุคที่ Tokugawa Ieyasu ได้ออกรบเพื่อปราบหัวเมืองต่างๆ โดยภายหลังจากโค่นหัวเมืองต่างๆ ลงได้แล้ว ปีค.ศ. 1603 เขาจึงได้สถาปนารัฐบาล Shogun ขึ้นมา เพื่อใช้ในการปกครองประเทศ โดยมี Edo เป็นสถานที่มั่นของ Bakufu หรือ รัฐบาลทหารขึ้นมา พร้อมสถาปนาตั้งตนตั้งขึ้นเป็น Shogun เมือง Edo จึงได้กลายมาเป็นศูนย์กลางของรัฐบาลทหาร โดยเขาก็กลายมามีอำนาจปกครองทั้งประเทศ แต่สำหรับในช่วงเวลาต่อมาในยุค Edo เมือง Edo ก็ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น จนกลายมาเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่สุด อีกเมืองหนึ่งของโลก โดยอัดแน่นไปด้วยประชากรมากกว่า 1 ล้านคน ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 ได้กลายมาเป็นที่ยอมรับว่าเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าองค์จักรพรรดิจะทรงประทับอยู่ในนครหลวง Heian-kyou หรือเมือง Kyoto ในปัจจุบัน หลังจากนั้นกาลเวลาร่วงเลยมาถึง

Read More

‘Tokyo Disney Resort’ เป็นรีสอร์ทขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ ณ ประเทศญี่ปุ่น ภายในรีสอร์ทแห่งนี้ประกอบด้วยหลายสถานที่ซึ่งอัดแน่นไปด้วยความบันเทิงนานาชนิด โดยรวมตัวอยู่ในที่แห่งเดียว อันประกอบด้วย สวนสนุก Disneyland 2 แห่งที่มีธีมแตกต่างกัน ได้แก่ ‘Tokyo Disneyland’ และ ‘Tokyo disney sea’ อีกทั้งยังมีโรงแรมDisney อีก 3 แห่ง , โรงแรม Tokyo Disney resort official และรถไฟ Monorail ซึ่งมอบความสะดวกสบายในการเดินทางภายใน ‘Tokyo Disney Resort’ สถานที่แห่งนี้พร้อมมอบประสบการณ์อันเต็มไปด้วยความสนุกสนาน เพลิดเพลินในสไตล์รีสอร์ท นอกจากนี้คุณยังสามารถดื่มด่ำไปกับการพักผ่อน, ช็อปปิ้ง , รับประทานอาหาร , ชมภาพยนตร์ รวมทั้งกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายที่คุณไม่อาจสัมผัสหมดภายได้ภายในวันเดียว เครื่องเล่นที่ไม่อยากให้คุณพลาด Haunted Mansion คฤหาสน์สถาปัตยกรรมแบบ Gothic ตั้งสูงตระหง่านท้าทายผู้มาเยือน บรรยากาศเต็มไปด้วยความน่าสะพรึงกลัว เหล่าดวงวิญญาณ

Read More

ตอนนี้เรากำลังอยู่ในยุคสมัยแห่งการท่องเที่ยวเข้ามามีบทบาทในชีวิตของคนเรามากขึ้น  เพราะด้วยการเดินทางอันแสนสะดวกสบาย การติดต่อสื่อสาร การเข้าไปยังที่ๆเคยเข้าถึงยาก แต่บัดนี้กลับเข้าถึงง่ายมากกว่าเดิม เพราะฉะนั้นการได้ออกเดินทางไปแสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆจึงเป็น ความฝันของใครหลายๆคน นอกจากนี้การท่องเที่ยวสมัยนี้ไม่จำเป็นว่าต้องใช้เงินเยอะๆ แต่สำหรับคนมีงบประมาณจำกัด ก็สามารถออกไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆได้เช่นเดียวกัน สำหรับที่พักซึ่งเราจะนำมาเสนอวันนี้ เป็นที่พักอันค่อนข้างแปลกแหวกแนวเสียหน่อย แต่ราคาถูก และเหมาะสำหรับคนมีงบจำกัดมากๆเลย โรงแรมแคปซูล เป็นที่พักทางเลือกซึ่งเดิมทีมีไอเดียเริ่มจากญี่ปุ่น ในราคาสบายกระเป๋า ให้ทั้งความสะดวกสบาย และมาพร้อมด้วย Option  เสริมมากมาย แถมยังเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย สุดยอดไปเลย  ทำให้คุณสามารถอุ่นใจในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะตกรถไฟ หรือกำลังมองหาโรงแรมนอนพักก็สามารถแวะมาใช้บริการได้ โรงแรมแคปซูล ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Kapuseru hoteru เป็นโรงแรมราคาถูก ซึ่งชาวญี่ปุ่นนิยมมาก ส่วนใหญ่จะใช้หลับนอนชั่วข้ามคืน เพราะอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อย่างเช่น พลาดรถไฟขบวนสุดท้าย หรือพนักงานบริษัทที่ทำงานล่วงเวลากันจนดึกดื่น โรงแรมแคปซูลนี้ก็ถือเป็นตัวช่วยทำให้คนเหล่านี้ได้พักผ่อน แถมยังไม่ต้องเสียค่าแท็กซี่แพงๆ หรือนอนโรงแรมมีราคาแพงอีกด้วย ภายหลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางคนเดียว หรือคู่รักด้วยล่ะ เนื่องจากเป็นโรงแรมสำหรับนอนแค่ข้ามคืนขนาดของห้องพักจึงค่อนข้างเล็ก พอนอนได้ เพื่อตัดรายการไม่จำเป็นออก ทำให้บริการแก่แขกในราคาย่อมเยาได้ ห้องพักนอกจากจะมีขนาดเล็กแล้วยังสร้างขึ้นติดๆกันเป็นทำเป็นแถว เป็นชั้น ทำให้มีลักษณะคล้ายกล่องที่ตั้งซ้อนกันขึ้นไป เรียงกันเป็นแนวยาว แม้ว่าแต่ละห้องจะอยู่ติดกัน แต่ก็ยังมีความเป็นส่วนตัวสูง เนื่องจากผู้เข้าพักสามารถปิดประตูห้องซึ่งอยู่ตรงทางเข้าได้

Read More

ถ้าเอ่ยถึงประเทศญี่ปุ่นในด้านการท่องเที่ยวแล้วล่ะก็ แน่นอนว่าประเทศนี้ติดอยู่ในอันดับต้นๆ ที่คนไทยอยากไปมากที่สุด แน่นอน ไม่ว่าจะทั้งในเรื่องของอาหาร , บรรยากาศ , การแต่งกาย , ผู้คน ทั้งหมดล้วนมีแต่ความน่าสนใจทั้งสิ้น โดยความน่าสนใจอันแสดงออกมาเป็นความงามเหล่านั้นเกิดมาจากมารยาท รวมทั้งขนมธรรมเนียมอันเคร่งครัดของคนญี่ปุ่น แน่นอนว่าเมื่อเราไปเที่ยวบ้านเขา เราก็ควรเป็นแขกผู้น่ารัก และสำหรับบ้านเขาค่อนข้างเป็นเรื่องละเอียดอ่อนอยู่มาก เพราะฉะนั้นเราลองมาดูมารยาทอันควรปฏิบัติ ก่อนจะไปเที่ยวญี่ปุ่นกันดีกว่า เวลาจ่ายเงินควรวางเงินบนถาม ไม่ส่งถึงมือโดยตรง สำหรับบ้านเราถือว่าเป็นเรื่องธรรมดามากๆ แต่สำหรับประเทศญี่ปุ่นแล้วถือว่าเป็นเรื่องที่เขาไม่ทำกัน เนื่องจากที่ญี่ปุ่นเขาจะมีถาดสำหรับให้วางเงิน ทั้งนี้เพื่อความสะดวก รวมทั้งสร้างความชัดเจนในขั้นตอนการรับเงินและทอนเงินนั่นเอง ไม่เสียงดังบนรถไฟ การเดินทางในประเทศญี่ปุ่นนั้น ส่วนใหญ่ใช้การโดยสารรถไฟเป็นส่วนมากเลย และรถไฟที่ญี่ปุ่นมีบรรยากาศ ค่อนข้างจะค่อนข้างเงียบ เพราะฉะนั้นการพูดคุยกันบนรถไฟหรือการคุยโทรศัพท์เสียงดังถือเป็นเรื่องไม่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง รวมไปถึงการไปแสดงท่าที ปาร์ตี้ ครึกครื้น  บนรถไฟอย่างถ่ายภาพเซลฟี่จนสร้างความเกะกะให้ผู้อื่น , ไปเต้นบนรถไฟ ก็ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่นัก รับของสองมือ ถ้าคุณได้มีโอกาสได้รับของจากคนญี่ปุ่นโดยเฉพาะจากผู้ใหญ่ คุณต้องของด้วย 2 มือพร้อมกัน จะเป็นการแสดงออกถึงความนอบน้อม เป็นการให้เกียรติผู้มอบของ พร้อมกับกล่าวคำขอบคุณอย่างสุภาพอย่าง Thankyou หรือ อาริกาโตะโคซาอิมัส ก็จะยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่เลย ญี่ปุ่นไม่ต้องให้ทิป แน่นอนว่าการให้ทิป เป็นธรรมเนียมที่แม้แต่ในบ้านเราเองก็ต้องมีกล่องตั้งไว้ตามเคาเตอร์เสมอๆ และยิ่งบางประเทศถ้าไม่ให้ทิปนี่ถือว่าเคืองน่าดูเชียว

Read More

บินไปเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีต้องเลือกราคาคุ้มสุดๆซิ วันนี้เรามีเทคนิคการจองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นในราคาถูกมาฝากเพื่อนๆกัน ไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้จองตั๋วเครื่องบินในราคาประหยัดสุด เพราะฉะนั้นเรามาดูกันเลยดีกว่าว่าต้องใช้วิธียังไงบ้าง เข้าไปดูตั๋วล่วงหน้าตั้งแต่เนิ่นๆ หากเพื่อนๆคิดจะไปเที่ยวญี่ปุ่น ให้วางแผนล่วงหน้าก่อนวันเดินทางให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะแต่ละสายการบินเขาออกตั๋วไว้เตรียมขายล่วงหน้าตั้งแต่ 11 เดือนก่อนแล้ว รวมทั้งเข้าไปเช็คบ่อยๆอย่างอาทิตย์ละครั้งกำลังดี  พอเจอดีลในราคาพอใจจะได้กดจองทันด้วย เลือกวันเวลาของเที่ยวบินให้เป็น ถ้าเพื่อนๆเลือกจองเที่ยวบินซึ่งออกบินในวันอังคาร , วันพุธ , วันเสาร์ เพื่อนๆจะได้ตั๋วราคาถูกกว่าการจองวันอื่นๆ เนื่องจากเป็นวันมีที่นั่งเหลือมากนั่นเอง นอกจากนี้ไม่ควรจองตั๋วเครื่องบินวันศุกร์หรือวันอาทิตย์ เพราะจะแพงสุด อีกทั้งถ้าหากเพื่อนๆจองเที่ยวบินซึ่งเวลาบินไม่ใช่เวลาปกติ เช่น ตอนดึกๆหรือเช้ามืด ก็จะได้ดีลราคาดีสุดเช่นกัน เปลี่ยนวิธีการจ่ายเงิน หากเพื่อนๆใช้บัตรเครดิตในการจ่ายเงิน ก็มักจะโดนหักค่าธรรมเนียมเสมอๆ นั่นก็แปลว่าจะทำให้ราคาตั๋วสูงขึ้นอีก เพราะฉะนั้นถ้าหากลองเปลี่ยนการจ่ายด้วยบัตรเครดิตแบบเดิมๆ ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้ หาสนามบินทางเลือก หากเพื่อนๆคิดจะจองตั๋วเครื่องบินไปยังเมืองใดเมืองหนึ่ง สมติว่าไปลงโอซาก้า ลองเช็คดูดีๆเผื่อว่ามีสนามบินอีกแห่งในเมืองเดียวกัน แล้วให้เช็คราคาของทั้ง 2 จุดหมายแล้วซื้อตั๋วไปยังจุดหมายราคาถูกสุดได้เลย แต่ยังไงก็ต้องวางแผนค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปยังสถานที่พักให้ดีนะ เนื่องจากบางทีบวกค่ารถบัส  ค่ารถไฟ ไปแล้ว เอาเงินไปซื้อตั๋วไปลงสนามบินหลักอาจถูกกว่าด้วยซ้ำ หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงวันหยุด ถ้าเป็นช่วงก่อน-หลังวันหยุด 7 วัน ควรหลีกเลี่ยงการจองตั๋วเครื่องบินช่วงนี้  เนื่องจากจะเจอปัญหาหลายอย่างเลย ไม่ว่าจะทั้งคนแน่นและตั๋วก็มีราคาแพง ยิ่งถ้าเป็นช่วง high season ล่ะก็ราคาตั๋วก็จะแพงขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

Read More

Tokyo เป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น มีสถานที่ดังๆ ดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Shinjuku, tokyo tower, rainbow  bridge, roppongi , ศาลเจ้าเมจิ เป็นต้น ส่วนข่าวสารซึ่งนำมาเสนอในวันนี้ก็เกี่ยวกับ Tokyo นี่แหละ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสถานศึกษา ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่นเชียวนะ นั่นก็คือ มหาวิทยาลัยโตเกียว นี่เอง โดยนิตยสาร Times Higher Education หรือเรียกย่อๆ ว่า THE ได้เปิดเผยถึงการจัดอันดับของมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น พบว่า มหาวิทยาลัยอันดับ 1 ทั้งทางด้านการเรียนการสอนและการเรียนรู้ ก็คือ มหาวิทยาลัยโตเกียว The University of Tokyo หรือคนส่วนมากจะเรียกชื่อ มหาวิทยาลัยนี้ย่อๆ ว่า โทได นั่นเองค่ะ มหาวิทยาลัยโตเกียว นี้ก็แน่นอนว่าตั้งอยู่ที่เมือง Tokyo แต่ว่ามีถึง 5 วิทยาเขตด้วยกัน ได้แก่ honjo

Read More

  ประเทศญี่ปุ่นถือได้ว่าเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ไม่ว่าจะไปในฤดูกาลไหนก็ล้วนแล้วแต่เป็นช่วงเวลาที่งดงามและน่าจดจำด้วยกันทั้งสิ้น อาจจะด้วยความที่ประเทศนี้จัดว่าเป็นประเทศยอดนิยมสำหรับการเดินทางไปท่องเที่ยวของคนไทยก็ได้เลยทำให้รู้สึกว่าต่อให้เดินทางไปช่วงไหนก็น่าสนใจอยู่ดี ว่าแล้วลองมาทำความรู้จักกับฤดูกาลทั้งหมดของประเทศญี่ปุ่นดูว่าจริงๆ แล้วประเทศนี้มีกี่ฤดูกาลกันแน่ ฤดูไปไม้ผลิ (ฮารุ) – เป็นฤดูที่เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม ถึง เดือนพฤษภาคม นี่คือช่วงเวลาแห่งความสวยงามของประเทศญี่ปุ่น เพราะในฤดูนี้ดอกไม้ต่างๆ จะค่อยๆ ผลิดอกให้เราได้ชื่นชมกันอย่างเต็มตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งดอกซากูระที่ถือว่าเป็นดอกไม้ขึ้นชื่อของประเทศญี่ปุ่นก็จะออกดอกบานสะพรั่งในช่วงเวลานี้เช่นเดียวกัน ถือว่าเป็นฤดูที่มีคนนิยมไปท่องเที่ยวอยู่ไม่น้อย เพราะพวกเขาจะได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติ คนญี่ปุ่นเองก็จะชอบเอาเสื่อมาปูปิคนิคกันใต้ต้นซากูระ ถือว่าเป็นภาพที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างมาก ฤดูร้อน (นัสซิ) – เป็นฤดูที่เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึง เดือนสิงหาคม นี่คือฤดูที่คนญี่ปุ่นจะเริ่มทำการปลูกข้าว ทำการเกษตร เพราะอากาศจะค่อยๆ ร้อนขึ้นนิดหน่อย ถือว่าเป็นฤดูที่คนญี่ปุ่นจะรู้สึกสนุกสนานเป็นอย่างมากเพราะสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้หลายอย่าง และจะมีเทศกาลประจำปีเกิดขึ้นมากมาย ชายทะเลที่ญี่ปุ่นจะได้รับความนิยมอย่างมากในฤดูนี้ แม้ว่าอากาศอาจจะร้อนไปบ้างในบางพื้นที่แต่โดยภาพรวมก็ยังถือว่าเป็นฤดูที่น่าเที่ยวอยู่ดี ฤดูใบไม้ร่วง (อะกิ) – เป็นฤดูที่เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน ถึง เดือนพฤศจิกายน จริงๆ แล้วฤดูนี้นับได้ว่าเป็นฤดูที่อากาศค่อนข้างจะดีเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อมันต่อจากฤดูร้อนที่พึ่งผ่านไปทำให้ลมเย็นต่างๆ จะค่อยๆ พัดเข้ามาจนทำให้รู้สึกสดชื่นแจ่มใส ต้นไม้ต่างๆ ที่เบิกบานก็จะผลัดเปลี่ยนเป็นสีเหลือง สีส้ม สีแดง สร้างความสวยงามไปอีกแบบ จากนั้นก็จะค่อยๆ ร่วงหล่นไปตามจังหวะลมพัด เพื่อรอฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง ซึ่งถือว่าเป็นอีกช่วงเวลาที่อากาศเย็นสบายเหมาะกับการไปพักผ่อนไม่น้อยเลยจริงๆ

Read More

ประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อได้ว่าเป็นอีก 1 ประเทศที่คนไทยให้ความสนใจและนิยมทีจะเดินทางไปเที่ยวอย่างมาก เพราะด้วยวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่นที่ค่อนข้างจะน่าสนใจ อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และบรรยากาศต่างๆ ล้วนเป็นที่ดึงดูดให้คนไทยหลงใหลในการเดินทางไปยังประเทศนี้กันมานักต่อนักแล้ว ทว่าก่อนที่จะเดินทางไปญี่ปุ่นนั้นสิ่งที่เราต้องศึกษาและเรียนรู้ในเบื้องต้นก็คือกฎหมายหรือว่าข้อบังคับบางประการ เพราะหากไม่รู้แล้วไปทำอาจจะโดนติดคุกญี่ปุ่นฟรีๆ ก็ได้ การต่อคิวในเรื่องต่างๆ – กฎหมายของญี่ปุ่นนั้นขึ้นชื่อเรื่องของความเป็นระเบียบอย่างมาก เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นการต่อคิวเพื่อทำอะไรก็แล้วแต่ อาทิ รอรถไฟ ซื้อสินค้า และอื่นๆ หากว่ามีคนแซงคิวจะถือว่าคนๆ นั้นเป็นคนที่ทำผิดอย่างร้ายแรง เหมือนกับการถ่มน้ำลายในที่สาธารณะอย่างนั้นก็ไม่ปาน ที่สำคัญแม้คนไทยอาจจะมองเป็นเรื่องมารยาทแต่ที่นี้เขาจับจริงปรับจริง โดยการแซงคิวมีโทษจำคุก 1 เดือน ปรับตั้งแต่ 1,000-10,000 เยน หรือทั้งจำทั้งปรับ การถ่มน้ำลายในที่สาธารณะ – จะมีลักษณะเดียวกับการแซงคิวเลยนั่นก็คือ โทษจำคุก 1 เดือน ปรับตั้งแต่ 1,000-10,000 เยน หรือทั้งจำทั้งปรับ เพราะที่นี่เขาก็ถือว่าการถ่มน้ำลายเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจและเป็นสิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติเป็นอย่างมาก การสูบบุหรี่ในประเทศญี่ปุ่น – แม้การสูบบุหรี่ในประเทศญี่ปุ่นจะไม่ใช่เรื่องร้ายแรงนัก แต่ถ้าหากว่าคุณดันเผลอไปสูบในบริเวณที่เขาไม่ได้จัดเอาไว้ให้มันก็จะทำให้ผิดกฎหมายไปโดยปริยาย ปกติในเมืองใหญ่ๆ หรือสถานที่สำคัญๆ นั้นจะมีพื้นที่สำหรับการสูบบุหรี่ไว้ให้อยู่แล้ว แต่ถ้าหากบางเมืองที่คุณหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดและเจ้าหน้าที่พบเห็นอาจจะต้องเสียเงินค่าปรับสูงถึง 2,000 – 5,000 เยน กันเลยทีเดียว โดยเจ้าหน้าที่จะบอกให้คุณดับบุหรี่ก่อนแล้วค่อยปรับคุณ

Read More

ใครเคยไปโตเกียวบ้างคะ  หากใครที่ได้เคยไปสัมผัส นอกจากบรรยากาศที่น่าเที่ยวชม บ้านเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และความงดงามของบ้านเมือง ด้วยศิลปะที่มีกลิ่นอายของคนญี่ปุ่นและร่วมสมัยกับวัฒนธรรมตะวันตก จะทำให้คุณอยากจะกลับไปเยือนอีก ไม่รู้ลืม  นอกจากนี้ยังมีอาหารรสเลิศในดินแดนซามูไรที่หากคุณได้ลิ้มรส แล้วจะอยากลองอีกอย่างแน่นอน เราไปดูกันค่ะ ว่ามีอะไรกันบ้าง ซูชิ แน่นอนค่ะใครมีโอกาสได้ไปโตเกียวดินแดนอาทิตย์อุทัย ย่อมต้องไปทานซูชิ ดินแดนที่ปลาดิบสดที่สุดในโลก แม้ว่าราคาอาจจะแพงกว่าที่ประเทศไทยบ้างในบางร้าน แต่บรรยากาศ และรสชาติ แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด บางร้านคิดราคากันเป็นคำเลยทีเดียว หรือบางร้านอาจจะมีคนเข้าแถวรอยาว และถึงขั้นต้องรับบัตรคิวกันเลยก็มี ราเมนโชยุ ราเมนซุปกระดูกหมู ราเมนโชยุ ราเมนซุปกระดูกหมู ถือเป็นเมนูเด็ดที่เหมาะอย่างยิ่งในสภาพอากาศหนาวเย็น อย่างดินแดนซามูไร  เคล็ดลับอยู่ที่น้ำต้มกระดูกหมู ที่เคี่ยวอย่างเข้มข้น และบางร้านมีการนำอาหารทะเลสดๆ มาทำน้ำซุปราเมนด้วย ซึ่งรสชาติเลิศรส อย่าบอกใครเชียว  และน้ำซอสญี่ปุ่นที่หากทานที่เมืองไทย อาจจะไม่เหมือนกัน และเส้นบะหมี่ราเมน มี สองประเภทคือ เส้นชิจิเระ (เส้นราเม็งแบบหยัก) และแบบตรง   โดยที่ญี่ปุ่นมีการควบคุมคุณภาพ  อุณหภูมินํ้าที่ใช้และระยะเวลาที่ฟอกสีเส้นบะหมี่ เพื่อให้เส้นออกมาไม่แข็ง และมีความยืดหยุ่น นอกจากนี้ยังมีเครื่องเคียงด้วย เพื่อให้ราเมนน่าทานและอร่อยยิ่งขึ้น ข้าวแกงกะหรี่  ข้าวหมูทอด(ทงคะสึ) เมนูนี้จะคล้ายๆ กับเมนูบ้านเราแต่ต้องขอบอกว่า หากใครมีโอกาสไปโตเกียวต้องหาโอกาสไปชิมสักครั้ง เพราะว่าเค้าจะมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนแกงกะหรี่ของบ้านเราก็ตรงที่ ความเหนียวและความเข้มข้นของน้ำแกง

Read More